
ละเอียดยิบไทม์ไลน์ฉาว ส.ส.ภูมิใจไทยทัวร์จีน "นิพิฏฐ์" แถลงแฉหลักฐานชัดกดบัตรแทนกัน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 63
Publish 2020-01-22 15:34:56
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ อดีต ส.ส.พัทลุง แถลงเพิ่มเติม จากก่อนหน้าโพสต์ข้อมูลการกดบัตรลงมติแทนกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (คลิกอ่านข่าวประกอบ : สภาพรอยแผลเต็มตัว !! นิพิฏฐ์ แฉอีก 1 ส.ส.ภูมิใจไทย บินจีนวันลงมติพ.ร.บ.งบฯ 63 เลขาสภาฯแย้มชงศาลรธรน.ตีความกม.สำคัญ)
โดยล่าสุดมีความชัดเจน เกี่ยวกับกระบวนการกดบัตรแทนกันของนางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยพบว่านางนาทีและคณะได้เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังเมืองเจิ้งโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.2563 ด้วยสายการบินไทยสมายล์เที่ยวบิน WE680 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการที่มีการประชุมสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และกลับปรากฏชื่อของนางนาทีในการลงคะแนนด้วย
ทั้งนี้นายนิพิฏฐ์ ยืนยันพร้อมแสดงข้อมูลว่า นางนาทีได้เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.28 น. แต่เมื่อตรวจย้อนกลับไปช่วงการลงมติ กลับพบว่าในเวลา 15.46 น. มีการลงมติในมาตรา 49 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก มาตรา 48 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เวลา 15.19น. มาตรา 47 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เวลา 15.17 น. รวมถึงมาตรา 46 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่สากล ในเวลา 14.56น. และมาตรา 45 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ ในเวลา 14.51 น.
"ผมเพียงแต่มาแถลงความจริงว่ากระบวนการตราร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วน ส.ส.จะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ ส.ส. เพราะผมไม่มีสิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ผมต้องการขอแถลงข้อเท็จจริงต่อประชาชน ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างพระราชบัญญัติไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเจ้าของบัตรอาจมีความรับผิดทางอาญาเนื่องจากรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นใช้สิทธิแทนคน"
ทั้งนี้นายนิพิฏฐ์ ระบุว่าพยายามคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 เป็นโมฆะ แต่เบื้องต้นพรรคภูมิใจไทย ต้องยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาร่างกาย โดยเฉพาะนางนาทีและนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ได้กดบัตรลงด้วยตัวเองในมาตราใดบ้าง เพื่อที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญแยกการพิจารณาออกมาได้และเพื่อไม่ให้กระทบเสียงส่วนใหญ่ของการพิจารณางบประมาณ แต่หากทั้งสองคนไม่ยอมรับเท่ากับว่าจะเป็นไปแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้ว
ล่าสุดรายงานข่าวจากรัฐสภา ระบุว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล แถลงว่า ส.ส.รัฐบาลจำนวน 90 คน ได้เข้าชื่อกันตามเงื่อนไข คือ ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกรัฐสภา ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อส่งเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กระบวนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เนื่องจากมีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติของส.ส.ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม
ทั้งนี้หนังสือที่ยื่นต่อประธานรัฐสภา มีการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยใน 3 ประเด็นได้แก่ 1.) กระบวนการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ขัดหรือแย้งกับหลักการการออกเสียงลงคะแนน ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 120 หรือไม่ 2.) หากมีปัญหา จะมีปัญหาทั้งฉบับหรือเฉพาะมาตราที่มีปัญหา และ 3.) และจะดำเนินการในแต่ละกรณีต่อไปอย่างไร
ส่วนที่เผยแพร่คลิปเสียบบัตรแทนกันผ่านช่องทางสื่อมวลชน โดยมีการระบุว่า นอกจากจะเปนภาพของส.ส.ภูมิใจไทยแล้ว ยังมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐด้วย นายวิรัช กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าคลิปดังกล่าวอยู่ในกระบวนการลงมติเรื่องใด แต่เมื่อในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐได้ย้ำว่า ส.ส. ต้องอยู่ในห้องประชุมตลอดเวลา ส่วนจะต้องแสดงความรับผิดชอบหากร่างกฎหมายตกทั้งฉบับหรือไม่นั้น นายวิรัชบอกว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ต้องเข้าใจว่า เครื่องลงมติมีเพียง 350 เครื่อง แต่จำนวนสมาชิกมีถึง 500 คน จึงต้องสลับกันเสียบบัตร
ส่วนที่มีคลิปบุคคลคนเดียวกันเสียบบัตรแทนกันหลายใบ ก็ต้องไปดูตามข้อเท็จจริง โดยวิปรัฐบาลมีหน้าที่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อเกิดเหตุอันควรสงสัย ภายใน 3 วัน หลังวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ วิปรัฐบาลจึงตัดสินใจยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยทันที เพื่อให้เกิดความรวดเร็วต่อการพิจารณาดำเนินการ